อังกฤษจับมือȨȨชาติสาȨ่องาȨครือข่ายึϹานการปกป้องคุ้มครองเึϹ�
ศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศต่อเด็กออนไลน์ (Child Exploitation and Online Protection Centre) ประเทศอังกฤษ จัดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็� พร้อมเปิดตัวประกาศนียบัตรจากระบบตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดต่อเด็�

สถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไทยและ ซึ่งเป็นศูนย์คุ้มครองเยาวชนแห่งสหราชอาณาจักร จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็� เป็นเวล� 2 วันเต็� โดยมีเครือข่ายผู้ทำงานด้านการปกป้องคุ้มครองเด็กและเจ้าหน้าที่ของรัฐและองค์กรต่างๆ จากประเทศเวียดนา� กัมพูช� สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ลาวและไท� เข้าร่วมการฝึกอบรมในครั้งนี� โดยมีวัตถุประสงค์ป้องกันมิให้ชาวอังกฤษที่มีประวัติกระทำความผิดล่วงละเมิดเด็กเดินทางไปทำงานยังประเทศต่าง� โดยเฉพาะงานสอนหรืองานอาสาสมัครที่ทำงานใกล้ชิดกับเด็� พร้อมเปิดตัวประกาศนียบัตรจากระบบตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดต่อเด็�
ระบบตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดต่อเด็กนี้จะช่วยในการตรวจสอบประวัติชาวอังกฤษที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ ว่ามีความเหมาะสมที่จะทำงานกับเด็กและเยาวชนหรือไม่ โดยศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศ� เผยว่าโรงเรียน หน่วยงานการกุศลและหน่วยงานในประเทศต่าง� นั้นยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของทางการในระดับที่องค์กรต่างๆ ในสหราชอาณาจักรใช้ตรวจสอ� จึงทำให้เกิดกรณีผู้ที่เคยกระทำผิดและมีคดีล่วงละเมิดต่อเด็กนั้นได้มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดกับเยาวช� สำหรับประกาศนียบัตรดังกล่าวสามารถค้นหาเกี่ยวกับใบสมัครได้ที่เว็บไซต� ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เก็บประวัติอาชญากรรมของสหราชอาณาจัก� ทั้งนี้มีรายงานในช่วงระหว่างปี 2551-2555 ว่ามีชาวอังกฤษ 457 คนถูกจับกุมในต่างประเทศในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็� ซึ่งประเทศที่ผู้กระทำความผิดถูกจับกุมนั้นรวมถึงประเทศเยอรมัน สหรัฐอเมริก� ฝรั่งเศส สเปน และประเทศไท�
มร. ปีเตอร์ เดวีส� ประธานบริหารของศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศ� กล่าวว่า
มีหลักฐานชัดเจนชี้ให้เห็นว่าผู้ที่เคยกระทำความผิดและมีคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็� ซึ่งมีประวัติกับทางการสหราชอาณาจักรนั้นมักจะหาโอกาสทำงานหรือเป็นอาสาสมัครในต่างประเทศ มีหลายครั้งที่ประกอบอาชีพครู หรืออาชีพอื่นๆ เช่� เจ้าหน้าที่องค์กรการกุศ� สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้� หรือสถานดูแลเด็� ประกาศนียบัตรจากระบบตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดต่อเด็กนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อให้นายจ้างและองค์กรอาสาสมัครต่าง� ทั่วโลกมั่นใจได้ว่� ผู้ที่มาสมัครเข้าทำงานนั้นไม่มีประวัติเป็นผู้กระทำผิดล่วงละเมิดเด็กในสหราชอาณาจักรมาก่อน ซึ่งบุคคลที่มีประวัติดังกล่าวไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะทำงานใกล้ชิดกับเยาวช� สำหรับบางองค์กรในต่างประเทศแล้ว นี่คือระบบตรวจสอบเดียวที่เข้าถึงข้อมูลของทางการตำรวจสหราชอาณาจัก� ดังนั้นจึงจำเป็นในการตรวจสอบก่อนรับคนเข้าทำงานเพื่อป้องกันการล่วงละเมิดเด็กที่อาจเกิดขึ้นได้
มร. มาร์� เคนท์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไท� กล่าวว่า
การส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร สถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไทยได้ร่วมมือกับทางศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศต่อเด็กออนไลน์แห่งสหราชอาณาจักรในการปกป้องการล่วงละเมิดต่อเด็� ไม่ให้ผู้มีประวัติกระทำความผิดต่อเด็กเดินทางเข้าออกประเทศ และช่วยงานเครือข่ายปกป้องคุ้มครองเด็� หรือ เรายังได้ร่วมมือกับศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศ� ในการชี้ตัวผู้มีแนวโน้มเข้าข่ายกระทำผิดทางเพศต่อเด็� และมิให้เดินทางข้ามประเทศได� ตามเห็นสมควร และยังประชาสัมพันธ์ให้เกิดความตระหนักในเรื่องการปกป้องคุ้มครองเด็กและการค้ามนุษย์จากประเทศไท� ประกาศนียบัตรจากระบบตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดต่อเด็กนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมืออย่างต่อเนื่องเพื่อการปกป้องคุ้มครองเด็กในประเทศไทยและสหราชอาณาจักรเราเชื่อว่าหน้าที่ของเราในการปกป้องคุ้มครองเด็กจากการถูกล่วงละเมิดนั้นมิได้หยุดแค่เพียงอาณาเขตของสหราชอาณาจักรเท่านั้� ความปลอดภัยและการปกป้องคุ้มครองเด็กนั้นเป็นพื้นฐานของความร่วมมือนี� เราอยากจะมั่นใจได้ว่าเราได้ทำทุกสิ่งเพื่อให้เยาวชนได้เรียนในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภั�
ด้าน มร. เกร็ก วัทคินส์ กรรมการผู้จัดการหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไท� กล่าวว่า
ทางหอการค้าอังกฤษตระหนักดีว่� ภาคเอกชนนั้นมีบทบาทสำคัญในการปกป้องคุ้มครองเด็� โดยส่งเสริมให้เกิดความตระหนักในหมู่พนักงานและลูกค้า และโดยให้ความรู้แก่ชุมชนที่บริษัทต่างๆ นั้นดำเนินธุรกิจอยู� ประกาศนียบัตรจากระบบตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดต่อเด็กนี้จะช่วยให้บริษัทเอกชนและองค์กรต่างๆ อาทิ โรงเรียนนานาชาติ มีเครื่องมือในการตรวจสอบว่าพนักงานและลูกจ้างในอนาคตนั้นไม่มีความผิดในคดีความล่วงละเมิดเด็กในสหราชอาณาจักร
การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้นับเป็นการสานต่อเครือข่ายปกป้องคุ้มครองเด็กที่ทางศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศ� ได้ริเริ่มขึ้น ทั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไท� ความร่วมมือในระดับประเทศและนานาประเทศระหว่างหน่วยงานของรั� องค์กรอิสร� และภาคเอกชนนี้เองที่ทำให้ทางศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศ� นอกจากจะป้องกันไม่ให้ผู้ที่เคยกระทำความผิดและมีคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กเดินทางมาประเทศไทยได้แล้ว ยังสามารถสร้างความตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นในหมู่เยาวชนเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดอีกด้วย
นอกจากนี� หอการค้าอังกฤษในประเทศไทยยังมีบทบาทสำคัญ โดยในป� 2553 นั้นได้ลงนามบันทึกความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างหอการค้าอังกฤษ� และศูนย์ป้องกันการละเมิดทางเพศ� โดยมีบริษัทเอกชนได้เข้าสนับสนุนร่วมรณรงค์การปกป้องคุ้มครองเด็� อาทิ บริษัท Property Care Services (PCS) บริษัท GlaxoSmithKline (Thailand) Ltd ธนาคาร HSBC สายการบิ� British Airways บริษัท เชลล์ประเทศไท� บริษัทManpower โรงแรม Grand Hyatt ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์� (ไท�) จำกั� และบริษั� Mackenzie Smith เป็นต้น